ดูหนัง เกาหลี หนัง Ox-Head Village หรือชื่อไทยว่า หมู่บ้านผีดุ เรื่องราวในหมู่บ้านคนหัวโค ตำนานสยดสยองที่คนใดกันแน่ได้ฟังต้องโดนคำแช่งและก็เผาผลาญไม่ว่าใครที่หลงเข้ามาให้อยู่ในวังวนที่ความผิดปกติ ตราบจนกระทั่ง คาน่อน (วัวคิ) หญิงสาวที่จะต้องพบเห็นแต่ว่าเรื่องแปลกข้างหลังการล่องหนไปอย่างลึกลับของวัยรุ่นสาวคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปัญหาที่ติดตามคุณไปในทุกแห่งหน หรือแม้กระทั้งอมนุษย์ที่ใส่หน้ากากหัวโคเชื้อเชิญน่าสยองขวัญ ทำให้คาน่อนจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่นั้นเพื่อหาทางปรับปรุงแก้ไขคำสาปแช่งและก็ค้นหาความลับอันดำมิดหมีก่อนที่จะทั้งหมดทุกอย่างจะสายเหลือเกิน
ดูหนัง เกาหลี เอาจริงเอาจังๆไม่รู้จักก่อนไปดูเลยนิดหน่อยว่าหนังหัวข้อนี้เกี่ยวกับอะไรดูหนัง เกาหลี
ทราบเพียงแต่ว่ามันเป็นหนังผีของประเทศญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับหมู่บ้านหัวโคที่ผลิตขึ้นมาจากข้อเท็จจริงในตำนานของประเทศญี่ปุ่น โดยตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวนี้จากความจริงของหมู่บ้านอุชิคุบิในตอนสมัยเมจิ ที่ชี้แจงว่าคนภายในหมู่บ้านโดนไล่ฆ่าชูเมืองเพื่อเป็นของกินจากเมืองศัตรู รวมทั้งยังมีพิธีการเลือกคนภายในหมู่บ้านเพื่อไปโดนเฉือน ผู้ที่ถูกเลือกจำเป็นต้องสวมหัวโคแล้วก็ถูกไล่ล่าดังสัตว์ และก็มันก็คือคำกล่าวของตำนานนี้
Ox-Head Village – หมู่บ้านผีดุ ผลงานจากผู้กำกับ Ju-On ก็ได้นำตำนานมาดัดแปลงและก็ผสมสานเรื่องราวเข้าไปให้ร่วมยุคเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ไปล่าท้าทายผีจนถึงเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งได้ล่องหนไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ที่เกี่ยวข้องก็เสียชีวิตอย่างปัญหา ซึ่งผู้ที่ล่องหนไปก็ได้เกี่ยวพันกับหญิงสาวอีกคนนึงที่อยู่คนละเมืองอย่างปัญหา
จำเป็นต้องกล่าวว่าตัวหนังมีสารขึ้นต้นที่น่าดึงดูดมากมายๆแถมยังเปิดเรื่องได้น่าติดตามสุดๆในระยะแรกนี่จังหวะหลอนจังหวะหลอกทำเป็นดีเยี่ยม (แม้ว่าจะใช้มุกบ่อยๆในหลายๆฉากก็ตาม) แต่ว่าโชคร้ายพอกลางเรื่องจนถึงไปด้านหลังเรื่อง มันช่างน่าผิดหวังเสียอย่างยิ่ง เรื่องราวแปลงเป็นน่าระอา ดูหนังฟรีออนไลน์ เล่าแบบขาดๆเกินๆสับสนๆอะไรก็ไม่เคยรู้สะเปะสะปะไปหมด แม้ว่าจะผูกกับตำนานจริงๆก็ทำเป็นไม่ถึงจุด มิได้รับทราบถึงความน่าสยองสักเท่าไหร่ จะสะท้อนสังคมในสมัยนั้นก็ทำเป็นอย่างผิวเผิน ความดีเลิศ ความน่าขนลุกในระยะแรกโดนทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งช่องโหว่ของหนังที่เชิญชวนเอ๊ะ เชิญชวนสงสัยยังมีอีกเยอะมากหลายจุดอย่างยิ่งจริงๆ
งานด้านภาพก็มิได้มีอะไรเด่น รวมทั้งตัวกราฟิกนี่จัดได้ว่าลอยอย่างยิ่งจริงๆ หลายฉากนี่ลอยแจ่มกระจ่างมากมาย กระโดดจากภาพอย่างสิ้นเชิง มีเพียงแค่บางฉากเงาสะท้อนหรือการหลบกล้องถ่ายรูปจัดแจงหลอกก็ทำเป็นฉลาดหลักแหลมไม่น้อยเลย
ทางด้านดาราหนังก็มิได้มีอะไรเด่น ราวกับจะเล่นใหญ่ไปด้วย โดยยิ่งไปกว่านั้นนางเอก น่าตอนตกอกตกใจนี่นึกว่ามองละครเวที ทั้งนักแสดงโอบล้อมก็เล่นเสมือนเล่นละครเวทีไม่แพ้กัน
สรุปแล้ว Ox-Head Village – หมู่บ้านผีดุ แปลงเป็นหนังที่สร้างจากตำนานความจริงที่โชคร้ายมากมายๆมีวัตถุดิบดีอยู่แล้ว แม้กระนั้นพากเพียรเล่นท่าอนาถามันแปลงเป็นน่าผิดหวังไปเลย ถ้าเกิดถือจับมาเล่าให้มันเข้าถึงได้ง่าย เล่นกล้วยๆมันจะน่าดึงดูดไม่น้อยเลย
หนัง The Anchor หรือชื่อไทยว่า ขุดคุ้ยข่าวผี บอกเล่าเรื่องราวของเซรา (ชอนอูฮี) คนอ่านข่าวมีชื่อที่ได้รับโทรศัพท์จากมีโซก่อนจะถ่ายทอดสดรายการข่าวสารในอีก 5 นาที มีโซโทรบอกเซราว่า “ฉันกำลังจะถูกใครสักคนฆ่า ขอความปรานีปกปิดเรื่องราวการเสียชีวิตของฉันด้วย” เมื่อได้รับสายนี้คุณก็มีความคิดว่านี่เป็นการโทรมารบกวนทั่วๆไป แต่ว่าคุณก็ยังหยุดนึกถึงประเด็นนี้มิได้ โซจองผู้เป็นแม่ของเซรา (อีฮเยยอง) ก็เลยเสนอแนะให้คุณเล่าราวของมีโซ เซราตกลงใจไปเยี่ยมบ้านของมีโซ ทำให้คุณได้เจอกับศพของมีโซที่ถูกใครซักคนฆ่าจริงๆแล้วก็จากนั้นมาเซราก็ไม่อาจจะหยุดนึกถึงภาวะศพของมีโซได้เลย คุณก็เลยเลือกที่จะไปพบกับอินโฮ (คุ้นชินฮาคยุยงน) จิตแพทย์ที่รอให้คำแนะนำมีโซ ซึ่งโน่นทำให้เซราไปสู่ความอลหม่านเพิ่มมากขึ้น
The Anchor – ขุดคุ้ยข่าวผี บอกเล่าเรื่องราวของ เซรา (ชอนอูฮี) ผู้รายงานข่าวสาวที่ได้รับโทรศัพท์จากสายปัญหาพร้อมกล่าวว่า ตัวของคุณรวมทั้งลูกกำลังจะถูกฆาตกรรม โดยต้องการให้เซรามายังจุดเกิดเหตุและก็รายงานข่าวสารด้วยตัวเอง ในตอนแรกคุณก็บอกปลายสายว่าชัดเจนกับตำรวจให้เพราะว่าจำต้องไปจัดแจงรายงานข่าวล่าสุด แต่ว่าด้วยสัญชาติญาณผู้รายงานข่าวทำให้คุณลงพื้นที่ไปดังที่ปลายสายแจ้ง แม้กระนั้นสองแม่ลูกก็ได้แปลงเป็นศพไปเสียแล้ว คุณก็เลยตกลงใจทำข่าวสารนี้ แต่ว่าโน่นเป็นจุดเริ่มความเร้นลับ น่าน่ากลัวที่กำลังจะกำเนิดกับตัวคุณ
จำต้องบอกก่อนเลยว่านี่ “ไม่เชิงเป็นหนังผี” แน่ๆว่าจากแบบอย่าง เรื่องย่อ อาจก่อให้คิดไปได้ว่ามันเป็นหนังผี (หรือพวกเราผู้เดียวนะ) แต่ว่าจริงๆมันเป็นหนังลึกลับ ตื่นเต้น สอบสวน จิตวิทยา ที่มีผีอยู่บ้างนิดหน่อย บางส่วนแบบน้อยจริงๆ5% จากทั้งยังเรื่องได้ และก็ส่วนนี้มันก็ไม่ใช่จุดขายของหนังซะด้วย ซึ่งเล่าอะไรไปๆมาๆกกว่านี้มิได้ มันจะเป็นการสปอยล์ สรุปว่าคนกลัวผีมองได้แน่นอนอาจมีแบบเกร็งแล้วก็ตระหนกตกใจบ้างนิดหนึ่ง แต่ว่าแค่นิดหน่อยจริงๆถ้าเกิดผ่านจุดนั้นมาถึงที่เหมาะเหลือไม่มีผีอะไรให้ท่านจะต้องไม่สบายใจแล้ว
ที่พูดว่าเซอร์ไพรส์ เป็นเรื่องราวของมันไม่ใช่หนังผียังไง เรื่องสำคัญมันกลายเป็นอันอื่น ตอนแรกเรื่องก็เป็นแบบนึง เพียงพอผ่านไปกว่าครึ่งเรื่องพวกเราไม่คาดคิดเลยว่าที่แท้หนังมันจะเป็นหัวข้อนี้ต่างหาก ไม่เคยสงสัย ไม่เคยเฉลียวใจ เรียกว่าหนังเก่งที่เบี่ยงความพึงพอใจ ทำให้พวกเราสับสนไปในหัวข้ออื่น หนังมานะใส่ปัญหาหยอดพวกเรามาอยู่เรื่อยหมดทั้งตัวเรื่องราวหรือเพิ่มผู้แสดงทำให้พวกเรานั่งขนคิ้วขมวด รวมทั้งหนังยังแทรกสอดหลักสำคัญแวดวงข่าวสารได้อย่างแนบเนียนโดยไม่รู้จักสึกแออัด ทั้งยังการปีนเต้าเป็นผู้ดำเนินรายการ การเลือกข่าวสารมาทำ สื่อ การเรียกเรตติ้ง
แต่ว่าแม้ว่ามันจะเป็นแถวสอบสวนด้วยความเป็นผู้รายงานข่าว แต่ว่ามันก็ราบเรียบ มิได้มีจังหวะให้ลุ้นหรือตื่นเต้นสักเท่าไหร่ การเดินเรื่องทีแรกๆจนกระทั่งกึ่งกลางเรื่องออกจะช้า มีความเนือย ความน่าดึงดูดใจเริ่มน้อยลง มันมีช่องโหว่ของตัวบท รวมทั้งมีสิ่งที่ไม่สำคัญสำหรับในการเล่าอยู่บ้าง จนถึงมาถึงองค์ท้ายที่สุดถึงได้ปลุกความน่าดึงดูดใจให้พวกเราอีกรอบ แม้กระนั้นเสมือนมันจะรีบเล่าองค์นี้เร็วเหลือเกิน จนถึงพวกเราไม่ทันได้อินหรือตื่นเต้นตกใจกับมันเลย
ทางด้านดาราหนัง จำต้องบอกเลยว่าน่าสรรเสริญ โดยยิ่งไปกว่านั้น ชอนอูฮี ในบท เซรา ดูหนัง เกาหลี ที่จำต้องแบกรับหนังอีกทั้งเรื่อง รวมทั้งถ่ายทอดแต่ละซีนออกมาได้ดิบได้ดีตรงกับคาแรคเตอร์มากมาย ส่วนตัวละครประกอบอื่นๆก็ได้มาตรฐานรอประคับประคองเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม
หนัง Elvis หรือชื่อไทยว่า เอลวิส จากผู้ผลิตภาพยนตร์วิสัยทัศน์ไกลผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ บาซ เลอร์แมนน์ สู่ภาพยนตร์ดราม่า “Elvis” จาก Warner Bros. Pictures แสดงนำโดย ออสติน บัตเลอร์ รวมทั้งผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ ทอม แฮงค์ส ภาพยนตร์จะพาไปตรวจสอบชีวิตรวมทั้งดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ (บัตเลอร์) ผ่านมิติความข้องเกี่ยวแสนสลับซับซ้อนกับผู้จัดการนิสัยลึกลับ ผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ (แฮงค์ส) เรื่องราวจะเจาะลึกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง เพรสลีย์ รวมทั้งปาร์คเกอร์ ตลอดระยะเวลา 20 ปี ตั้งแต่ เพรสลีย์ เริ่มโด่งดังมีชื่อเสียงไปจนกระทั่งในตอนที่มีคนรักคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหน้าเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังปรับปรุงแล้วก็การสูญเสียความไม่รู้เดียงสาในอเมริกา ในเวลาเดียวกันก็มีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญและก็ทรงอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส เป็นอย่างมาก มันก็คือ พริสสิลลา เพรสลีย์ (โอลิเวีย เดอยองจ์)
มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดไม่ทราบชายที่ชื่อ Elvis Presley ถึงไม่เคยฟังเพลง ก็จะต้องเคยได้เห็นหน้า ถึงไม่เคยมองเห็นหน้า ก็จะต้องเคยรับรู้ชื่อของเขาคนนี้ เขาเป็นราชาเพลง Rock n’ Roll ที่ครอบครองใจผู้คนทั่วทั้งโลก เป็นดังวัฒนธรรม ภาพจำบริเวณใบหน้าอันรูปหล่อ การแสดงอันทรงอำนาจรวมทั้งเป็นเอกลักษณ์ทุกคราว แต่ว่าโชคร้ายที่เขาจากโลกไปด้วยวัยเพียงแต่ 42 ปี
หนังประเด็นนี้ได้ผลหน้าที่ควบคุมของ Baz Luhrmann ที่เคยฝากผลงานไว้ภายใน
Romeo + Juliet (1996), Moulin Rouge! (2001), The Great Gatsby (2013) ซึ่งหนังมิได้เลือกถ่ายทอดเรื่องราวของฝั่ง Elvis เสียเชิงเดียว ด้วยเหตุว่าหนังเลือกที่จะเล่าผ่านมุมมองของผู้จัดของใช้ส่วนตัวของ Elvis อย่าง Tom Parker ชายผู้ถูกยัดเยียดข้อหาว่าเป็นปลิงดูดเลือดดูดเงินใช้งาน Elvis เช่นขี้ข้า และก็ถูกยัดเยียดข้อหาว่าเขานี่แหละที่เป็นคน “ฆ่า Elvis” รวมทั้งหนังเริ่มได้อย่างน่าดึงดูดจากคำแก้ต่างของ Parker ว่า “ผมมิได้ฆ่า Elvis ผมนี่แหละเป็นคนสร้าง Elvis ถ้าเกิดไม่มีผมก็ไม่มี Elvis”
ถึงแม้ว่าหนังจะยาวราว 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ว่ามันผ่านไปเร็วมากมายและไม่น่ารำคาญเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากคนใดกันติดตามงานของ Baz Luhrmann มาก่อน จะทราบว่ามี pacing สำหรับเพื่อการเล่าที่เร็วทันใจ แล้วก็หัวข้อนี้ก็เป็นแบบนั้น ในตอนแรกหนังเล่าเร็วมาก กระชับสุดๆก็เลยทำให้ขั้นแรกของหนังผู้ชมอย่างพวกเราไม่ทันได้อิน ได้ดูดซึมอารมณ์ของนักแสดงและก็เรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยมันก็ผ่านไปเสียแล้ว แม้กระนั้นเข้าใจในเรื่องจุดหมายว่าอยากได้เล่าราวความเกี่ยวข้องของ Elvis แล้วก็ Tom Parker ก็เลยจึงควรรีบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันถัดไป แต่ว่าก็แอบเสียดายว่าแอบมองเห็นมุมมองความรู้สึกในแต่ละช่วงชีวิตของ Elvis มากยิ่งกว่านี้ แต่กระนั้นมันก็ทำให้พวกเราได้มองเห็นเรื่องราวของธุรกิจดนตรี การตกลงธุรกิจ การเห็นแก่ตัว ผลตอบแทน ถึงจะมิได้ลึก แต่ว่ามันก็เป็นประเด็นที่น่าดึงดูดด้วยเหมือนกัน ดูหนังออนไลน์ 2022 ฟรี
ในแต่ละตอนของหนังพวกเราจะมองเห็น Mood รวมทั้ง Tone ที่แปรไปเรื่อยอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งรูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัว ขั้นตอนการเล่า มันจะช้าลง มีซีนอารมณ์เพิ่มมากขึ้น มีเพลงของ Elvis รอขับเรื่องราวได้อย่างถูกกัน แล้วก็ที่สำคัญ ตลอดทั้งเรื่องพวกเราจะได้มองเห็นการแสดงอันทรงประสิทธิภาพของ Elvis ที่ดูแล้วจัดจ้า ทั้งยังเสื้อผ้า หน้าผม แล้วก็เยี่ยมยอดจริงๆจำเป็นต้องดูทั้งทีมงานแล้วก็ Austin Butler ที่ทำออกมาได้ดีขนาดนี้ บางทีอาจจะมิได้ขนลุกเท่าการแสดงดนตรี Live Aid ที่วง Queen แสดงอย่างในหนัง Bohemian Rhapsody (2018) แต่ว่าทรงอำนาจในแบบที่ Elvis จะต้องเป็น ยิ่งความคล้ายคลึงสำหรับเพื่อการแสดงของ Elvis นี่โคตรราวกับเลย ทั้งยังฉากในรายการ Comeback Special ปี 1968 หรือการแสดงใน International Hotel ที่ Vegas ในปี 1969 ที่ถ่ายทอดออกมาได้ไม่มีที่ตำหนิจริงๆ